เปิดเผยข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นครั้งแรก
พนักงาน Google หลายคนทราบดีว่าเราเป็นบริษัทที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์มาตั้งแต่ปี 2550 โดยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ ซื้อพลังงานทดแทน และลงทุนในการชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างเหมาะสม แต่วันนี้ Google จะรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานทั้งหมดเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นการดำเนินการที่โปร่งใสยิ่งขึ้น และเป็นการผลักดันให้อุตสาหกรรมมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น เออร์ ฮอลส์ลี (Urs Hölzle) รองประธานอาวุโสฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิค และผู้เชี่ยวชาญด้านการประหยัดพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่เท่าไร และอะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว?
ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดของ Google สำหรับปี 2553 อยู่ที่ 1.46 ล้านเมตริกตัน เราเคยกังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการใช้พลังงานอาจจะบั่นทอนความได้เปรียบด้านการแข่งขัน แต่สุดท้าย เราก็ตัดสินใจแล้วว่าการเปิดเผยข้อมูลนี้มีความสำคัญกว่าการเก็บข้อมูลเป็นที่ทราบเพียงภายในองค์กร เพราะข้อมูลนี้อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะกระตุ้นให้มีการปรึกษาหารือและดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน
คุณสามารถเปิดเผยตัวเลขคร่าวๆ ได้ไหม? Google ใช้พลังงานเท่าไร?
ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการคำนวณระดับพลังงานต่อผู้ใช้หนึ่งคน การใช้ผลิตภัณฑ์ Google ในระยะเวลาหนึ่งเดือนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับการเปิดหลอดไฟ 60 วัตต์ทิ้งไว้นาน 3 ชั่วโมง แน่นอนอยู่แล้ว Google มีผู้ใช้จำนวนมาก ดังนั้นตัวเลขดังกล่าวจึงเพิ่มมากขึ้น โดยปริมาณพลังงานทั้งหมดที่เราใช้ในหนึ่งปีอยู่ที่ประมาณ 2.3 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง รวมถึงการใช้งานภายในสำนักงาน หรือเท่ากับ 260MW โดยเฉลี่ยตลอดทั้งปี
พลังงานส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับดาต้าเซ็นเตอร์ และเราลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้หลายล้านตัน ด้วยการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดในโลก โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพและการระบายความร้อนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งปรับใช้เทคนิคอื่นๆ เช่น การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ผู้จัดการในดาต้าเซ็นเตอร์ของ Google จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และทำการปรับเปลี่ยนเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
นอกจากนั้น ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งก่อให้เกิดประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ดังนั้น Google กำลังช่วยเหลือบริษัทอื่นๆ ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตัวอย่างเช่น Gmail ประหยัดพลังงานได้มากกว่า 80 เท่า เมื่อเทียบกับโซลูชั่นที่ติดตั้งภายในองค์กร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานด้านเทคนิคที่เราจัดพิมพ์ในวันนี้
รอยเท้าคาร์บอนมีองค์ประกอบอะไรบ้าง? วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร?
การคำนวณและตรวจสอบปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Google ไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีลักษณะคล้ายกับการตรวจสอบด้านการเงิน โดยหลักแล้วเกี่ยวข้องกับการค้นหาข้อมูล การไล่ดูบิลค่าไฟฟ้า การค้นหาใบเสร็จค่าเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ขนส่ง และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน และการประเมินผลกระทบด้านก๊าซคาร์บอน Google มีทีมงานที่ยอดเยี่ยมซึ่งประสานงานร่วมกันทั่วทั้งบริษัทเพื่อตรวจสอบติดตามข้อมูลนี้และทำให้แน่ใจว่าเราดำเนินงาน
อย่างมีความรับผิดชอบ
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1) ก๊าซคาร์บอนที่เราปล่อยโดยตรง เช่น ไอเสียจากรถยนต์สตรีทวิว หรือการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อทำความร้อนให้กับสำนักงานของเรา 2) ไฟฟ้าที่เราซื้อสำหรับสำนักงานและดาต้าเซ็นเตอร์ และ 3) การปล่อยก๊าซทางอ้อมอื่นๆ เช่น การเดินทางเพื่อไปทำธุรกิจ และการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ แต่เพื่อให้มองเห็นภาพรวมทั้งหมด คุณจำเป็นที่จะต้องตรวจดูแนวทางโดยรวมของบริษัทสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมการทำงานของเราในเรื่องของการประหยัดพลังงาน การลงทุนในพลังงานทดแทน และการซื้อพลังงานสะอาดสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา ในวันนี้ เราจะเผยแพร่เนื้อหาส่วนใหม่ไปยังไซต์ Google Green ซึ่งจะให้ข้อมูลภาพรวมที่ชัดเจนอย่างมาก
คุณสามารถเปิดเผยตัวเลขคร่าวๆ ได้ไหม? Google ใช้พลังงานเท่าไร?
ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการคำนวณระดับพลังงานต่อผู้ใช้หนึ่งคน การใช้ผลิตภัณฑ์ Google ในระยะเวลาหนึ่งเดือนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับการเปิดหลอดไฟ 60 วัตต์ทิ้งไว้นาน 3 ชั่วโมง แน่นอนอยู่แล้ว Google มีผู้ใช้จำนวนมาก ดังนั้นตัวเลขดังกล่าวจึงเพิ่มมากขึ้น โดยปริมาณพลังงานทั้งหมดที่เราใช้ในหนึ่งปีอยู่ที่ประมาณ 2.3 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง รวมถึงการใช้งานภายในสำนักงาน หรือเท่ากับ 260MW โดยเฉลี่ยตลอดทั้งปี
พลังงานส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับดาต้าเซ็นเตอร์ และเราลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้หลายล้านตัน ด้วยการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดในโลก โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพและการระบายความร้อนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งปรับใช้เทคนิคอื่นๆ เช่น การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ผู้จัดการในดาต้าเซ็นเตอร์ของ Google จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และทำการปรับเปลี่ยนเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง
นอกจากนั้น ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งก่อให้เกิดประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน ดังนั้น Google กำลังช่วยเหลือบริษัทอื่นๆ ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตัวอย่างเช่น Gmail ประหยัดพลังงานได้มากกว่า 80 เท่า เมื่อเทียบกับโซลูชั่นที่ติดตั้งภายในองค์กร ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากรายงานด้านเทคนิคที่เราจัดพิมพ์ในวันนี้
รอยเท้าคาร์บอนมีองค์ประกอบอะไรบ้าง? วิธีการคำนวณเป็นอย่างไร?
การคำนวณและตรวจสอบปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Google ไม่ใช่เรื่องง่าย มันมีลักษณะคล้ายกับการตรวจสอบด้านการเงิน โดยหลักแล้วเกี่ยวข้องกับการค้นหาข้อมูล การไล่ดูบิลค่าไฟฟ้า การค้นหาใบเสร็จค่าเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ขนส่ง และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน และการประเมินผลกระทบด้านก๊าซคาร์บอน Google มีทีมงานที่ยอดเยี่ยมซึ่งประสานงานร่วมกันทั่วทั้งบริษัทเพื่อตรวจสอบติดตามข้อมูลนี้และทำให้แน่ใจว่าเราดำเนินงาน
อย่างมีความรับผิดชอบ
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1) ก๊าซคาร์บอนที่เราปล่อยโดยตรง เช่น ไอเสียจากรถยนต์สตรีทวิว หรือการเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อทำความร้อนให้กับสำนักงานของเรา 2) ไฟฟ้าที่เราซื้อสำหรับสำนักงานและดาต้าเซ็นเตอร์ และ 3) การปล่อยก๊าซทางอ้อมอื่นๆ เช่น การเดินทางเพื่อไปทำธุรกิจ และการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ แต่เพื่อให้มองเห็นภาพรวมทั้งหมด คุณจำเป็นที่จะต้องตรวจดูแนวทางโดยรวมของบริษัทสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมการทำงานของเราในเรื่องของการประหยัดพลังงาน การลงทุนในพลังงานทดแทน และการซื้อพลังงานสะอาดสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา ในวันนี้ เราจะเผยแพร่เนื้อหาส่วนใหม่ไปยังไซต์ Google Green ซึ่งจะให้ข้อมูลภาพรวมที่ชัดเจนอย่างมาก
ปริมาณการปล่อยก๊าซมีมากน้อยเพียงใด? คุณจะเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ ได้อย่างไร?
การเปรียบเทียบบริษัท Google กับบริษัทอื่นๆ นับเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละบริษัทย่อมจะมีความแตกต่างหลากหลายและมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง บางบริษัทที่เรามองว่าเป็นคู่แข่งเป็นผู้ผลิต ซึ่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าบริษัทของเราอย่างมาก ส่วนบริษัทอื่นๆ ต้องพึ่งพาดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับการดำเนินงานส่วนใหญ่เช่นเดียวกับ Google แต่อาจไม่ได้จัดหาบริการประเภทเดียวกับเรา หรือไม่ได้มีปริมาณการใช้งานมากเท่ากับเรา ทางที่ดีเราควรจะตรวจสอบดัชนีต่างๆ เช่น PUE (ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน - power usage effectiveness) ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการตรวจวัดประสิทธิภาพในดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยเหตุนี้ การคำนวณตามจำนวนผู้ใช้จึงนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก
อย่างไรก็ดี ถ้าคุณสนใจที่จะดูวิธีการเปรียบเทียบของเรา คุณก็สามารถดูรายงานโครงการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Carbon Disclosure Project) ฉบับใหม่ ซึ่งจะตีพิมพ์เผยแพร่เร็วๆนี้ ถ้าหากตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่แล้ว Google ก็ปล่อยก๊าซน้อยกว่าแอปเปิลอย่างมาก และมากกว่าไมโครซอฟท์เล็กน้อย
ทำไมคุณซึ่งเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคถึงมีบทบาทเกี่ยวข้องอย่างมากต่อการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของกูเกิล?
เรื่องของเรื่องก็คือ ทีมที่ผมดูแลอยู่ใช้พลังงานส่วนใหญ่ของทั้งหมดที่ Google ใช้อยู่ ผมจึงต้องพยายามผลักดันให้ทีมงานปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อลดการใช้พลังงานให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่จะมาถึงจุดนี้ และเราต้องทำงานหนักอย่างมาก แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เพราะนอกจากจะได้รับประโยชน์ในแง่ของการปกป้องสิ่งแวดล้อมแล้ว เรายังประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายล้านดอลลาร์เลยทีเดียว เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เราเริ่มต้นดำเนินการในปี 2547 นับได้ว่าตอนนี้เรามาได้ไกลเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีงานอีกมากมายที่เราจะต้องทำ ตัวอย่างเช่น เราตั้งเป้าหมายที่จะใช้พลังงานทดแทนเพื่อรองรับการดำเนินงานทั้งหมดในอนาคต ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เราก็พยายามที่จะทำอย่างนั้น โดยเราซื้อพลังงานทดแทนภายใต้ข้อตกลงการจัดซื้อพลังงาน เราหวังว่า PPA ของเราจะครอบคลุมกว่า 15% ของการใช้ไฟฟ้าในปี 2555 และสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้นจาก 25% ในปี 2543 เป็นกว่า 35% ในปี 2555
มีอะไรอื่นอีกที่ Google กำลังดำเนินการเพื่อความยั่งยืน?
นอกเหนือจากอาคารสีเขียว, การซื้ออาหารท้องถิ่น และทางเลือกในการเดินทางที่ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับพนักงาน Google แล้ว เราได้ลงทุนอย่างจริงจังในการปรับปรุงการดำเนินงานของเราให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมทั้งผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้นสำหรับโลกของเรา จนถึงทุกวันนี้เราใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 780 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการและบริษัทที่ผลิตพลังงานทดแทน และเรามีแผนที่จะลงทุนในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบริษัทที่เราลงทุนก็คือ SolarCity ซึ่งมอบส่วนลดให้แก่พนักงานของ Google ที่เช่าซื้อแผงโซลาร์เซลล์สำหรับติดตั้งบนหลังคาบ้าน
เขียนโดย ทีม Google ประเทศไทย